เพื่อธุรกิจที่ก้าวไกล ทำการตลาดด้วย Big data
เพื่อธุรกิจที่ก้าวไกล ทำการตลาดด้วย big data
ในอดีตนั้น ในการตัดสินใจทางธุรกิจของเจ้าของกิจการนั้นอาศัยประสบการณ์ในการทำงานที่ยาวนาน และวิสัยทัศน์ของผู้บริหารหรือเจ้าของกิจการเป็นปัจจัยในการพิจารณา ในบางครั้งอาจมีการทำวิจัยทางการตลาดร่วมด้วยซึ่งก็จะต้องใช้งบประมาณเป็นจำนวนมาก แต่ในปัจจุบันมีการใช้ข้อมูลในการขับเคลื่อนธุรกิจที่มากขึ้น หากทำการตลาดด้วย big data ที่มีข้อมูลมากมายมหาศาลอยู่รอบตัว เพียงแค่หาวิธีในการบริหารและจัดเก็บข้อมูลเหล่านี้ ก็สามารถที่จะเป็นที่หนึ่งในด้านธุรกิจที่ต้องการได้ ไม่ว่าจะเป็นรายชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ ที่ทำงาน การใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต
การใช้งานโซเชียลเน็ตเวิร์ค ฯลฯ สามารถนำมาใช้เป็นข้อมูลในการวิเคราะห์ถึงพฤติกรรมต่าง ๆ ของกลุ่มเป้าหมายเป็นรายคนได้ เช่น ตัวอย่างการใช้ big data ในไทย ทุก ๆ วันเวลา 8.00-8.30 น.นาย A มักจะใช้เวลาว่างส่วนใหญ่เลือกเข้าใช้งาน Facebook เพื่อเข้าดูกลุ่มซื้อขายของออนไลน์และชอบดูสินค้าประเภท เครื่องสำอาง มีประวัติการสั่งซื้อ 3 ครั้ง ด้วยยอดเงินแต่ละครั้งไม่เกิน 1,000 บาท ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวนอกจากนาย A แล้วยังมีใครอีกที่เข้าใช้งานในแบบนาย A ทางบริษัทก็จะต้องเก็บและรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมแบบนาย A ณ ช่วงเวลาดังกล่าวมาทำการวิเคราะห์และเสนอขายสินค้าในความสนใจให้นาย A หรือทำให้นาย A เข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการขายให้ได้ เพื่อที่จะได้รู้ว่าลูกค้าต้องการอะไร
การใช้เทคโนโลยีมาช่วย ทำการตลาดด้วย big data
หนึ่งในเทคโนโลยีที่นำมาใช้เก็บข้อมูลลูกค้ามากที่สุดคือ QR Code ด้วยการประยุกต์ใช้ได้อย่างเหมาะสม ร่วมกับการนำซอฟต์แวร์แบบ AI มาใช้ในการคัดแยกและวิเคราะห์ข้อมูลที่มีมากมาย ตัวอย่าง การวิเคราะห์ big data เช่น สินค้าที่นาย A สั่งซื้อจะเป็นครีมกันแดด ด้วยที่นาย A เป็นนักกีฬากลางแจ้งต้องใช้ครีมกันแดดในการปกป้องผิวจากแสงยูวี ซึ่งนาย A มีอายุ 25 ปี เป็นพนักงานบริษัท ที่มีรายได้ระหว่าง 18,000-25,000 บาท ทางระบบก็จะช่วยวิเคราะห์ถึงโปรโมชันที่จะนำมาเสนอนาย A นอกเหนือจากครีมกันแดด ก็จะเป็นโลชั่นหรือครีมบำรุงผิวหลังจากที่ทำกิจกรรมกลางแจ้งเสร็จเพื่อช่วยในการรักษาและฟื้นฟูสภาพของผิวหน้าจากรังสียูวี ด้วยโปรโมชัน ซื้อครีมกันแดด 3 หลอด ฟรี! ครีมบำรุงผิวหน้าขนาด 15ml. 1 ขวด เพียงเท่านี้ก็ทำให้นาย A เกิดการลังเลว่าจะซื้อครีม 1 หลอด เหมือนอย่างเคยหรือซื้อ 3 หลอดได้ของแถมเป็นครีมบำรุงผิวหน้าอย่างดีด้วย จะเห็นได้ว่าข้อมูลทั้งหมดที่กล่าวมาเป็นเพียงบางส่วนที่ระบบ AI ได้ทำการคัดกรองและเลือกโปรโมชันให้ตรงตามรายบุคคล แต่ถ้าเป็นกลุ่มขนาดใหญ่ก็สามารถที่จะสร้างรายได้ที่เพิ่มมากขึ้นให้กับบริษัทได้ นอกจากข้อมูลที่นาย A เป็นนักกีฬากลางแจ้งแล้ว ยังจะได้ข้อมูลในเรื่องของเงินเดือนที่นาย A ได้รับ ในส่วนของธนาคารก็สามารถมาขยายผลในช่องทางนี้เพื่อขายผลิตภัณฑ์บัตรเครดิตให้กับนาย A ไว้ใช้เพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน สามารถเป็นส่วนลด 10% ในการซื้อครีมกันแดดเมื่อใช้ร่วมกับบัตรเครดิตนี้ได้อีก จะเห็นว่า ทำการตลาดด้วย big data ซึ่งเป็นข้อมูลขนาดใหญ่สามารถที่จะเชื่อมโยงรายละเอียดต่าง ๆ ถึงกันได้ จนทำให้เกิดแรงขับเคลื่อนในเรื่องของการใช้ข้อมูล Big Data เกิดขึ้น
ด้วยเทคโนโลยี QR Code ที่ล้ำสมัยสามารถที่จะจัดเก็บข้อมูลของลูกค้าที่ซื้อสินค้าได้ เพียงแค่แปะ QR Code ลงไปที่ตัวสินค้าแล้วแนะนำให้ลูกค้าลงทะเบียนออนไลน์ผ่านการสแกน QR Code นี้ เพียงเท่านี้ก็สามารถที่จะรู้จักลูกค้ามากขึ้น รวมถึงการแจ้งกลับของ QR Code ที่นอกจากจะส่งข้อมูลการลงทะเบียนออนไลน์มาให้แล้ว ยังส่งตำแหน่งที่ตั้งของลูกค้ากลับมาด้วย พร้อมพฤติกรรมการซื้อสินค้าว่าซื้อที่ห้างสรรพสินค้าหรือร้านสะดวกซื้อ เพื่อที่เจ้าของผลิตภัณฑ์จะนำข้อมูลไปจัดโปรโมชันในการกระตุ้นยอดขายให้มากยิ่งขึ้น เพื่อการโฆษณาประชาสัมพันธ์จะได้ตรงกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด
ทำการตลาดด้วย big data เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนเรา
ไลฟ์สไตล์ที่ตอบโจทย์ในการ ทำการตลาดด้วย big data ว่าด้วยเรื่องของหนังและซีรีส์ละครจากต่างประเทศ เช่น ตัวอย่างการใช้ big data ในต่างประเทศ Netflix ถือว่าประสบผลสำเร็จเป็นอย่างมาก ที่มีการนำข้อมูลที่ลูกค้าสมัครเข้าใช้งานหรือจากแบบสอบถามออนไลน์ที่ให้ระบุเกี่ยวกับประเภทของหนังที่ชอบว่าเป็นประเภทใด เช่น แอคชั่น ดราม่า สืบสวนสอบสวน หรือหนังตลก เป็นต้น ทั้งหมดนี้เกิดจากการทำแบบสำรวจของทาง Netflix แล้วนำข้อมูลที่ได้ไปทำหนังซีรีส์ให้โดนใจผู้ชมทั่วโลก ซึ่งในปี 2018 Netflix มีรายได้อยู่ที่ 1.6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐและเพิ่มมากขึ้นจากปี 2017 มากถึง 35% โดยมีสมาชิกอยู่ที่ 139 ล้านคนจากทั่วโลก(ที่มา : gsmarena) แค่กำหนดแบบสอบถามให้ลูกค้าที่จะเข้าสมัครเป็นสมาชิกเพียงเท่านี้ก็สามารถที่จะนำข้อมูลที่ได้รับไปทำหนังให้โดนใจคนดูทั่วทั้งโลกได้ แม้จะไม่โดนใจทั้งหมดแต่ด้วยการพัฒนาแอปพลิเคชัน จึงทำให้มีหลาย ๆ เรื่องให้ลูกค้าสามารถที่จะเลือกดูหนังตามใจชอบได้ นับเป็น กรณีศึกษา big data ที่น่าสนใจอย่างยิ่ง
จากที่กล่าวมาข้างต้นจะเห็นได้ว่าด้วยข้อมูลที่น้อยนิดของคนหนึ่งคน ก็สามารถที่จะนำมาวิเคราะห์ในเรื่องของการตลาด สินค้าที่จะจำหน่ายให้และโปรโมชันที่จะนำเสนอ เพียงเท่านี้ก็สามารถที่จะขายสินค้าให้ได้แล้ว แต่ ทำการตลาดด้วย big data ที่มีข้อมูลของคนมากกว่าล้านคนขึ้นไป อย่างน้อยต้องมี 10% ที่สนใจในสินค้าที่ผลิตหรือทำโปรโมชันออกมา เช่น นาย A ที่ใช้จ่ายครั้งละ 1,000 บาทต่อครั้งและที่จำนวนคน 10% ของ 1 ล้านคน จะอยู่ที่ 100,000 คน ที่มีไลฟ์สไตล์แบบนาย A ร่วมกันซื้อครีมกันแดด ด้วยราคาเท่ากันกับนาย A จะมีมูลมากถึง 100,000,000 บาทเลยทีเดียว จะเห็นได้ว่าการตลาดที่เลือกใช้ข้อมูลขนาดใหญ่ในการวิเคราะห์และคัดกรองลูกค้าที่ดีแล้ว สามารถที่จะทำกำไรในการขายสินค้าให้ตรงกลุ่มและมีมูลค่ามหาศาลได้
สรุป
เห็นได้ว่าข้อมูล Big Data นั้นมีอิทธิพลต่อการทำธุรกิจอย่างมาก หากท่านสนใจหรือมีความต้องการใช้ระบบเก็บข้อมูล Big data ScanMe SeeScore ยินดีให้คำปรึกษาค่ะ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร 087-689-8608, 082-439-1589
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.scanmeseescore.com/